วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เก๋ากี๋ รักษาโรค



ปวดหลัง ปวดเอว
เก๋ากี้ และ โต่วต๋ง จำนวนพอเหมาะ ต้มน้ำรับประทาน หรือใช้ปรุงอาหาร

บำรุงร่างกาย แก้อาการอ่อนเพลีย
เก๋ากี้ ตังกุย โสมคน เส็กตี่ ปาเก็ก อย่างละพอเหมาะ ต้มน้ำรับประทาน

บำรุงประสาท กล่อมประสาท ทำให้หลับสบาย
เม็ดเก๋ากี้ เนื้อลำไยแห้ง อย่างละ 1 ลิตร เติมน้ำ 10 ลิตร ต้มจนเนื้อยาเปื่อย กรองเอากากยาทิ้ง เคี่ยวต่อจนได้น้ำข้นๆ รับประทานครั้งละ 2 – 3 ช้อนโต๊ะ วันละหลายๆครั้ง

แก้อาการตามัว ตาบอดกลางคืน
ดอกเก๊กฮวย ปาเก็ก และเก๋ากี้ จำนวนพอเหมาะ ต้มน้ำรับประทาน

วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

อาการฉี่กะปริดกะปรอย ฉี่ขัด ปวดท้องหน่วงตอนฉี่ หรืออาจจะเป็นไข้ เป็นอาการแรกเริ่มในการเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบและมักเกิดกับผู้หญิงมากกกว่าผู้ชาย เพราะผู้หญิงมีท่อปัสสาวะสั้น เชื้อแบคทีเรียบริเวณปากท่อจึงเข้าไปถึงกระเพาะปัสสาวะได้ง่าย

นอกจากนั้น เพศหญิงมักจะกลั้นปัสสาวะ เนื่องจากความไม่สะดวกระหว่างนั่งรถทางไกล หรือ รังเกียจห้องน้ำที่ไม่สะอาดและไม่คุ้นเคย เชื้อโรคที่เข้าไปถึงกระเพาะปัสสาวะจึงไม่สามารถถูกขับออกอย่างรวดเร็ว และมีเวลาเพิ่มจำนวนขึ้นจนมากพอที่จะทำให้เกิดอาการอักเสบ

หญิงตั้งครรภ์ ผู้เป็นโรคเบาหวาน การร่วมเพศ การต้องใช้สายสวนท่อปัสสาวะ อาจทำให้ กระเพาะปัสสาวะอักเสบง่ายขึ้นเช่นกัน

หากไม่รักษาจะเป็นเรื้อรังและเชื้อโรคลุกลามขึ้นไปทำให้ไตอักเสบได้

อาการ ผู้เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบจะปวดปัสสาวะบ่อย แต่ถ่ายออกกะปริดกะปรอยครั้งละน้อย ปวดแสบท่อปัสสาวะและปวดท้องน้อยเวลาถ่ายสุด อาจมีเลือดปนออกมากับปัสสาวะหรือเป็นเลือดสดๆ หยดออกมาเมื่อปัสสาวะสุด แต่ไม่มีไข้

ไม่อยากเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ควรดูแลตัวเองดังนี้ค่ะ
1.ดูแลพื้นที่ส่วนตัวให้สะอาดแห้งอยู่เสมอ (พกกระดาษทิชชู่ติดตัวไว้เสมอนะคะ)
2.เช็ดทำความสะอาดจากหน้าไปหลัง อย่าเช็ดแบบย้อนศร เพราะมีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย
3.ดูแลห้องน้ำ โถส้วมให้สะอาด
4.ใส่เสื้อผ้าโปร่งสบาย ไม่ใส่กางเกงที่คับติ้วเกินไป
5.ใช้ชุดชั้นในเป็นผ้าฝ้าย หรือบางวันก็ไม่ใส่ก็ได้ค่ะหากอยู่บ้าน หรือเวลานอนก็ไม่สวมก็ได้ค่ะ
6.เมื่อเริ่มรู้สึกว่าเกิดอาการฉี่ขัด ดื่มน้ำมากๆช่วยขับถ่ายเชื้อโรคออกทางปัสสาวะ หรือเหงื่อมากขึ้น พักผ่อนให้พอ ร่างกายจะได้แข็งแรงมีภูมิต้านทานเชื้อโรคได้

เช็คโรคจากอาการปวดท้อง

ใครที่มักจะปวดท้องบ่อย ๆ แต่ไม่รู้ว่าปวดท้องเพราะอะไร เรามีวิธีการเช็คโรคจากอาการปวดท้องมาบอก...

- ปวดท้องด้านขวาตอนบน ความเจ็บปวดในบริเวณด้านขวาตอนบนของช่องท้อง มักเกิด จากโรคตับและถุงน้ำดี

- ปวดท้องบริเวณแอ่งกระเพาะอาหาร แอ่งกระเพาะอาหาร คือ บริเวณที่อยู่ใต้ซี่โครงลงมา การเจ็บปวดบริเวณนี้มักเกิดจากการแสบกระเพาะอาหารและอาการไม่ย่อย โรคกระเพาะและลำไส้อักเสบอาจเกิดขึ้นในบริเวณนี้ได้เช่นเดียวกัน บางครั้งโรคต่างๆที่เกิดขึ้นที่ถุงน้ำดีก็อาจเกิดขึ้นในบริเวณส่วนท้องที่เป็นแอ่งได้

- ปวดท้องส่วนกลาง ส่วนใหญ่มักเกิดจากสาเหตุมาจากโรคที่เกิดขึ้นที่ลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ นอกจากนี้อาการปวดท้องที่บริเวณนี้อาจเกิดจากไส้ติ่งอักเสบ ซึ่งมักเริ่มขึ้นที่บริเวณนี้ก่อนเสมอ แล้วจึงเลื่อนมาเป็นส่วนล่าง

- ปวดท้องด้านซ้ายตอนบน อาจมีสาเหตุมาจากโรคต่างๆ ที่เกิดในลำไส้ใหญ่ เช่น โรคท้องผูกหรืออาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อลำไส้ใหญ่ แต่หากมีอาการแสบกระเพาะอาหาร นั่นหมายถึงอาจเกิดจากกรดและอาการเจ็บปวดเนื่องจากแผลในกระเพาะ

- ปวดท้องด้านขวาตอนล่าง อาจเป็นอาการของไส้ติ่งอักเสบอย่างเฉียบพลัน อาการอักเสบของลำไส้

- ปวดท้องด้านซ้ายตอนล่าง อาการปวดที่เป็นลักษณะปวดและคลายสลับกันพร้อมกับ อาการท้องร่วง หรือเกิดจากอาการท้องผูก อาจเกิดจากโรคถุงตันที่ลำไส้ใหญ่อักเสบ (Diverticulitis)

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เร่งการเผาผลาญด้วยการดื่มน้ำ




ในร่างกายของเรามีน้ำเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของร่างกาย แต่ทำไมดื่มน้ำเป็นลิตรจึงไม่อ้วน แถมการดื่มน้ำมากๆ ยังช่วยลดไขมันในร่างกายได้อีกด้วย
การดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ทุกวันเพื่อสุขภาพที่ดีเป็นสิ่งที่เราทราบกันดี แต่ดื่มน้ำยังช่วยในการละลายไขมันอีกด้วย เพราะตามปกติแล้วการดื่มน้ำในปริมาณที่ร่างกายต้องการ จะช่วยให้ตับทำงานได้เต็มที่ ซึ่งหน้าที่หลักของตับนั้นก็จะช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่ตามซอกหลืบของร่างกายให้เปลี่ยนเป็นพลังงานได้ และน้ำก็ยังเป็นตัวการสำคัญที่ช่วยให้การเผาผลาญไขมันดีขึ้น แต่ถ้าร่างกายขาดน้ำ ก็จะทำให้ตับทำงานไม่เต็มที่ การเผาผลาญไขมันก็ลดลงด้วย

การดื่มน้ำน้อยจึงส่งผลให้การเผาผลาญไขมันทำได้น้อย อาหารที่กินเพิ่มเข้าไป จะไปเพิ่มการสะสมไขมันในร่างกายมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการพยายาม ดื่มน้ำให้มากขึ้นอีกนิด เพื่อช่วยลดการสะสมของไขมันก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจใช่ไหมคะ

การดื่มน้ำเมื่อท้องว่าง


การดื่มน้ำเมื่อท้องว่าง ได้ประโยชน์อย่างที่คุณคิดไม่ถึงนะจะบอกให้


การดื่มน้ำเ มื่อท้องว่างผ่านกระเพาะอาหาร เพื่อรักษาสุขภาพที่ดี
ในประเทศญี่ปุ่นทุกวันนี้ เป็นที่นิยมดื่มน้ำทันที หลังจากตื่นนอนตอนเช้า ( ก่อนแปรงฟัน )

เพื่อการรักษาสุขภาพที่ดี มีการทดลองทางวิทยาศาสตร์
พบว่าน้ำสามารถใช้ชะลอความแก่ และสามารถบำบัดรักษาโรคเหล่านี้ได้ผล 100%
( แบบค่อยเป็นค่อยไป ต้องใช้ระยะเวลา )

ปวดหัว ปวดตามตัว โรคระบบหัวใจ โรคไขข้ออักเสบ โรคหัวใจเต้นเร็ว โรคลมบ้าหมู
โรคอ้วน โรคหลอดลมอักเสบ โรคหืด วัณโรค อาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ไขสันหลังอักเสบ
โรคไตและยูริก โรคแสลง คลื่นไส้ต่างๆ โรคกระเพาะ โรคท้องร่วง โรคริดสีดวงทวาร
โรคเบาหวาน โรคอาการท้องผูก โรคตา โรคภายในสตรี มะเร็ง รอบเดือนไม่ปกติ โรคคอ หู จมูก

วิธีการปฏิบัติ

1. ตื่นนอนตอนเช้า ก่อนแปรงฟัน ให้ดื่มน้ำ 4 แก้ว (640 ซีซี)

2. หลังจากนั้นสามารถและล้างหน้าอาบน้ำได้ แต่ต้องไม่ดื่ม
หรือรับประทานอะไร จนกว่า 45 นาทีผ่านไป จึงจะรับประทานได้ตามปกติ

3. หลังรับประทานอาหารเช้า กลางวัน เย็น ไปแล้ว 15 นาที
ไม่ควรดื่มน้ำหรือรับประทานอะไร จนกว่า 2 ชั่วโมงผ่านไป

4. ผู้ป่วย หรือคนชรา ที่ไม่สามารถดื่มน้ำ 4 แก้ว
ก็ให้ค่อยๆ ดื่ม ค่อยเป็นค่อยไปเรื่อยๆ จนได้ครบ 4 แก้ว

ข้อปฏิบัติ 4 ข้อดังกล่าว
จะทำให้ท่านบำบัดรักษาโรคที่เป็นอยู่ค่อยๆเบาและหายขาดได้ในที่สุด
ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น และไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ทั้งสิ้น
เพียงแต่อาจปัสสาวะบ่อยขึ้น และหลังดื่มน้ำไปแล้วประมาณ1-2ชั่วโมงก็จะปวดปัสสาวะ